จะรู้ได้อย่างไรว่าเด็กสนใจตีกลองชุดจริงจัง?

สารบัญเนื้อหา

  1. บทนำ
  2. สัญญาณที่ 1: การใช้เวลาอยู่กับกลองอย่างสม่ำเสมอ
  3. สัญญาณที่ 2: ความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาทักษะ
  4. สัญญาณที่ 3: การให้ความสำคัญกับอุปกรณ์และเครื่องมือ
  5. สัญญาณที่ 4: การแสดงออกทางอารมณ์ผ่านการตี
  6. สัญญาณที่ 5: การมองหาโอกาสในการแสดง
  7. สัญญาณที่ 6: การฝึกฝนอย่างมีวินัยด้วยตัวเอง
  8. สัญญาณที่ 7: การมีส่วนร่วมกับชุมชนคนรักดนตรี
  9. สัญญาณที่ 8: การยอมรับในความก้าวหน้า
  10. สัญญาณที่ 9: การมีความสุขในการเล่น ไม่ใช่แค่การเป็น ‘มืออาชีพ’
  11. สรุป

จะรู้ได้อย่างไรว่าเด็กสนใจตีกลองชุดจริงจัง? 9 สัญญาณที่บ่งบอกถึงแพสชันที่ไม่ใช่แค่ความสนุกชั่วคราว

คุณพ่อคุณแม่หลายท่านอาจเคยสงสัยว่า “ลูกเราชอบตีกลองจริง ๆ หรือแค่ตามเพื่อน?” “จะซื้อกลองชุดให้ดีไหม แต่ก็กลัวว่าจะเป็นแค่ของเล่นชั่วคราว” คำถามเหล่านี้เป็นเรื่องปกติสำหรับผู้ปกครองที่กำลังสนับสนุนความสนใจของลูก แต่ในโลกที่เต็มไปด้วยสิ่งเร้ามากมาย การแยกแยะระหว่างความชอบชั่วคราวกับความหลงใหลที่แท้จริงอาจเป็นเรื่องที่ท้าทาย บทความนี้จะเจาะลึก 9 สัญญาณสำคัญที่จะช่วยให้คุณมองเห็นถึงความจริงจังในการเล่นดนตรีของลูก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กลองชุด ซึ่งเป็นเครื่องดนตรีที่ต้องอาศัยทั้งวินัยและความมุ่งมั่น


สัญญาณที่ 1: การใช้เวลาอยู่กับกลองอย่างสม่ำเสมอ

ไม่ได้มีแค่การ ‘ซ้อม’ แต่คือการ ‘ใช้ชีวิต’

การที่เด็กใช้เวลาอยู่กับกลองไม่ได้หมายความว่าพวกเขาต้องซ้อมอย่างเป็นทางการเสมอไป สัญญาณแรกและสำคัญที่สุดคือการที่พวกเขามีความสุขกับการอยู่ใกล้ กลองชุด ไม่ว่าจะกำลังนั่งเล่นไปเรื่อย ๆ ทดลองเสียงต่าง ๆ หรือแม้แต่ใช้ไม้กลองเคาะกับสิ่งของรอบตัวเพื่อสร้างจังหวะ หากคุณเห็นว่าลูกของคุณมักจะเดินเข้าไปหาชุดกลองด้วยความเต็มใจ แทนที่จะต้องถูกบังคับให้ไปซ้อม นั่นเป็นสัญญาณที่ดีมาก

  • ความแตกต่างระหว่าง “การซ้อม” กับ “การเล่น”: การซ้อมมักจะถูกมองว่าเป็นหน้าที่ แต่การเล่นคือความสุข หากเด็กของคุณสนุกกับการใช้เวลาอยู่กับกลองโดยที่ไม่ได้รู้สึกเหมือนกำลัง “ทำงาน” นั่นคือการแสดงออกถึงแพสชันที่แท้จริง

การหาข้อมูลเพิ่มเติมด้วยตัวเอง

อีกหนึ่งตัวชี้วัดที่น่าสนใจคือการที่เด็กเริ่มค้นคว้าหาข้อมูลเกี่ยวกับกลองด้วยตัวเอง อาจจะดูวิดีโอสอนตีกลองใน YouTube, ฟังเพลงเพื่อแกะจังหวะ หรือแม้แต่พูดคุยเรื่อง กลองชุด กับเพื่อน ๆ สัญญาณนี้แสดงให้เห็นว่าความสนใจของพวกเขาไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในห้องซ้อม แต่ขยายไปสู่โลกภายนอกอย่างเป็นธรรมชาติ


สัญญาณที่ 2: ความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาทักษะ

จากจังหวะง่าย ๆ สู่เทคนิคที่ซับซ้อนขึ้น

เด็กที่สนใจจริงจังจะไม่อยากอยู่กับที่เดิม ๆ พวกเขาจะเริ่มตั้งคำถามเกี่ยวกับเทคนิคใหม่ ๆ หรือพยายามทำตามจังหวะที่ยากขึ้น หากลูกของคุณเริ่มฝึกตี Fill-in ที่ซับซ้อนขึ้น หรือพยายามแกะจังหวะเพลงโปรดด้วยตัวเอง นั่นแสดงให้เห็นว่าพวกเขามีเป้าหมายในการพัฒนาตัวเอง และความท้าทายเหล่านี้ไม่ได้ทำให้พวกเขาท้อถอย

  • ความอดทนต่อความล้มเหลว: การเรียนรู้ดนตรีต้องเจอกับความผิดพลาด การที่เด็กสามารถรับมือกับความผิดพลาดได้โดยไม่ยอมแพ้ และกลับมาพยายามใหม่ นั่นคือการบ่งชี้ถึงความมุ่งมั่นที่แข็งแกร่ง

การเปรียบเทียบและเรียนรู้จากศิลปินมืออาชีพ

เด็กที่มีแพสชันมักจะมองหาไอดอลของตัวเอง พวกเขาอาจจะเริ่มพูดถึงมือกลองคนโปรด เช่น John Bonham, Dave Grohl หรือ Chad Smith และพยายามเลียนแบบเทคนิคการตีของพวกเขา การที่เด็กสามารถระบุได้ว่าทำไมถึงชอบมือกลองคนนั้น ๆ ไม่ใช่แค่เพราะเท่ แต่เพราะจังหวะและวิธีการตีที่น่าสนใจ นั่นคือสัญญาณที่ชัดเจนของความเข้าใจที่ลึกซึ้งในศิลปะการตี กลองชุด


สัญญาณที่ 3: การให้ความสำคัญกับอุปกรณ์และเครื่องมือ

จากของเล่นสู่เครื่องมือจริงจัง

ความสนใจของเด็กอาจเริ่มจากการเล่นกลองของเล่น แต่หากคุณเห็นว่าพวกเขาเริ่มสนใจรายละเอียดของอุปกรณ์จริง ๆ เช่น ชนิดของฉาบ (Cymbals), วัสดุของไม้กลอง, หรือแม้แต่การจัดวางกลองในแบบที่เหมาะสม นั่นแสดงว่าพวกเขาไม่ได้มองกลองเป็นแค่ของเล่นอีกต่อไป แต่เป็นเครื่องมือสำหรับสร้างสรรค์งานศิลปะ

  • การดูแลรักษาเครื่องดนตรี: เด็กที่รักในสิ่งที่ทำจะดูแลรักษามันอย่างดี หากลูกของคุณเริ่มเช็ดทำความสะอาดกลอง จัดเก็บไม้กลองให้เป็นระเบียบ นั่นเป็นสัญญาณที่แสดงถึงความผูกพันและความจริงจัง

สัญญาณที่ 4: การแสดงออกทางอารมณ์ผ่านการตี

กลองไม่ใช่แค่เครื่องดนตรี แต่เป็นส่วนหนึ่งของอารมณ์

ดนตรีคือภาษาสากลที่ใช้สื่อสารอารมณ์ เด็กที่จริงจังกับการตีกลองจะใช้มันเป็นช่องทางในการระบายหรือแสดงอารมณ์ของตัวเอง หากพวกเขารู้สึกดีใจ พวกเขาก็อาจจะตีจังหวะที่สนุกสนานและรวดเร็ว แต่หากพวกเขารู้สึกหงุดหงิด พวกเขาก็อาจจะตีด้วยพลังที่มากขึ้น การที่ดนตรีกลายเป็นส่วนหนึ่งของอารมณ์ในชีวิตประจำวันของพวกเขา นั่นคือสิ่งที่แสดงให้เห็นว่าความผูกพันของพวกเขาไปไกลกว่าแค่การเป็นกิจกรรมยามว่าง


สัญญาณที่ 5: การมองหาโอกาสในการแสดง

จากห้องซ้อมสู่เวทีเล็ก ๆ ในบ้าน

เด็กที่มีความมั่นใจในทักษะของตัวเองมักจะมองหาโอกาสในการแสดงออก หากลูกของคุณเริ่มชวนให้คุณพ่อคุณแม่มาดูพวกเขาเล่นกลอง หรือแม้แต่ชวนเพื่อน ๆ มาตั้งวงเพื่อเล่นด้วยกัน นั่นคือสัญญาณที่บอกว่าพวกเขาภูมิใจในสิ่งที่ทำและต้องการแบ่งปันความสุขนี้กับผู้อื่น การที่เด็กต้องการออกไปแสดงความสามารถเป็นแรงผลักดันสำคัญในการพัฒนาตัวเอง


สัญญาณที่ 6: การฝึกฝนอย่างมีวินัยด้วยตัวเอง

ไม่ต้องถูกบังคับให้ซ้อม

ข้อนี้เป็นตัวชี้วัดที่ชัดเจนที่สุด หากเด็กสามารถจัดสรรเวลาในการซ้อมได้ด้วยตัวเองโดยที่คุณไม่ต้องคอยเตือน นั่นแสดงว่าพวกเขามีวินัยในตัวเองที่เกิดจากความรักในสิ่งที่ทำ หากพวกเขารู้สึกว่าการซ้อมเป็นส่วนหนึ่งของกิจวัตรประจำวันและเป็นสิ่งที่ทำแล้วมีความสุข นั่นคือการบ่งบอกถึงความจริงจังที่แท้จริง


สัญญาณที่ 7: การมีส่วนร่วมกับชุมชนคนรักดนตรี

การหาเพื่อนใหม่ที่มีความสนใจเดียวกัน

การที่เด็กเริ่มมีเพื่อนหรือคนรู้จักที่มีความสนใจในดนตรีและการตี กลองชุด เหมือนกันเป็นอีกหนึ่งสัญญาณที่บ่งบอกถึงการเติบโตทางแพสชันของพวกเขา การได้แลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์ หรือแม้แต่การได้เล่นดนตรีด้วยกันกับเพื่อน จะช่วยเสริมสร้างแรงบันดาลใจและทำให้พวกเขารู้สึกว่าไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวในเส้นทางนี้


สัญญาณที่ 8: การยอมรับในความก้าวหน้า

ไม่ได้คาดหวังความสำเร็จในชั่วข้ามคืน

เด็กที่เข้าใจว่าการเรียนรู้ต้องใช้เวลาจะไม่ท้อถอยง่าย ๆ หากพวกเขาสามารถยอมรับได้ว่าการพัฒนาทักษะต้องใช้เวลาและความอดทน และรู้สึกภูมิใจกับความก้าวหน้าเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เกิดขึ้นในทุกวัน นั่นคือสิ่งที่บ่งบอกถึงทัศนคติที่ถูกต้องและเป็นผู้ใหญ่


สัญญาณที่ 9: การมีความสุขในการเล่น ไม่ใช่แค่การเป็น ‘มืออาชีพ’

แพสชันที่เกิดจากข้างใน

สุดท้ายนี้ สัญญาณที่สำคัญที่สุดคือการที่พวกเขามีความสุขกับการตีกลองอย่างแท้จริง ไม่ได้มีเป้าหมายว่าจะต้องเป็นนักดนตรีชื่อดังหรือสร้างรายได้จากมัน แต่ความสุขในการสร้างสรรค์จังหวะและเสียงเพลงคือสิ่งที่ขับเคลื่อนพวกเขา หากคุณเห็นรอยยิ้มและความสุขในขณะที่ลูกกำลังเล่น กลองชุด นั่นคือสิ่งที่ล้ำค่าที่สุด และเป็นเครื่องยืนยันว่าสิ่งที่พวกเขาทำอยู่นั้นคือสิ่งที่มาจากความรักและความจริงใจ


สรุป: การสนับสนุนอย่างเข้าใจคือหัวใจสำคัญ

การจะรู้ว่าเด็กสนใจตีกลองจริงจังหรือไม่นั้น ไม่ใช่เรื่องของการดูว่าพวกเขาซ้อมได้ดีแค่ไหน แต่คือการสังเกตจากพฤติกรรมและความรู้สึกที่พวกเขามีต่อเครื่องดนตรีชิ้นนี้ หากคุณเห็นสัญญาณเหล่านี้ในตัวลูกของคุณ นั่นเป็นโอกาสที่ดีที่คุณจะเริ่มสนับสนุนพวกเขาอย่างจริงจัง ไม่ว่าจะเป็นการซื้ออุปกรณ์ที่เหมาะสม การหาครูสอนที่มีคุณภาพ หรือการให้กำลังใจในทุก ๆ ก้าวเล็ก ๆ ที่พวกเขาเดินไป

การที่ผู้ปกครองเข้าใจและให้การสนับสนุนอย่างถูกวิธีจะช่วยเสริมสร้างความเชื่อมั่นให้กับเด็ก และเปลี่ยนจากความสนใจชั่วคราวให้กลายเป็นความหลงใหลที่อาจจะอยู่กับพวกเขาไปตลอดชีวิต และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการที่พวกเขามีความสุขกับการเดินทางในโลกดนตรีนี้ไปด้วยกัน

แหล่งอ้างอิง:

  • Berklee Online: บทความและวิดีโอเกี่ยวกับการเรียนรู้ดนตรีและแรงบันดาลใจ
    • Reference: Berklee Online. (n.d.). The Importance of Music Education for Children.
  • Drumeo: แหล่งข้อมูลออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดสำหรับมือกลอง
    • Reference: Drumeo. (n.d.). Learning the Drums: How to Keep Kids Motivated.
  • MusicRadar: เว็บไซต์ข่าวและบทความเกี่ยวกับเครื่องดนตรี
    • Reference: MusicRadar. (n.d.). How to Encourage Your Child to Practice Their Instrument.

สนใจเรียนดนตรีกับมีภูมิ สามารถทดลองเรียนได้ฟรี

  • ยกเว้นคอร์สเต้นจะมีค่าใช้จ่าย 500 บาท เมื่อมีการสมัครเรียนจะคืนเงินให้กับท่าน