fbpx

ดนตรีบำบัด กับการบําบัดความเครียดช่วยเรื่องโรคซึมเศร้า

สารบัญดนตรีบำบัด

Music Therapy หรือดนตรีบำบัด เป็นการนำดนตรีมาประยุกต์ใช้เพื่อช่วยรักษาและพัฒนาความสามารถด้านต่าง ๆ ทั้งด้านร่างกาย จิตใจ ความคิด ความเครียด รวมถึงทักษะทางสังคม ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ช่วยยกระดับคุณภาพจิตใจและพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้ที่ต้องการเพิ่มความสามารถในตัวเอง

อย่างไรก็ตาม ดนตรีบำบัดแตกต่างจากการรักษาโรค เนื่องจากไม่สามารถรักษาให้ผู้ป่วยหายจากโรคได้ แต่ดนตรีสามารถช่วยให้ผู้ที่รับการบำบัดรู้สึกเชื่อมโยงและมีส่วนร่วมในกระบวนการบำบัดผ่านเสียงเพลงที่ฟัง หลายคนมักบอกว่าดนตรีเปรียบเสมือนภาษากลางที่ช่วยสื่อสารอารมณ์และความรู้สึกได้ ไม่ว่าจะเป็นนักดนตรี ผู้แต่งเพลง นักร้อง หรือแม้กระทั่งผู้ฟัง ทุกคนสามารถเชื่อมโยงกันผ่านดนตรีได้อย่างลึกซึ้ง

ทำความรู้จักการใช้ “ดนตรีบำบัดรักษา

ดนตรีบำบัดได้รับความนิยมและใช้ในทางการแพทย์มาเป็นเวลานาน เนื่องจากเชื่อว่าดนตรีสามารถช่วยบรรเทาความเจ็บป่วย รวมถึงลดความกังวลและความตึงเครียด งานวิจัยยังแสดงให้เห็นว่าการฟังดนตรีก่อนการผ่าตัดสามารถช่วยลดความเครียดและความวิตกกังวลได้มากกว่าการใช้ยาบรรเทาความเครียด โดยฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับความเครียดอย่าง Cortisol ลดลงหลังการฟังดนตรี

นอกจากนี้ ดนตรียังช่วยปรับอารมณ์ให้สงบขึ้น ทำให้การนอนหลับเป็นเรื่องง่ายขึ้น พูดได้ว่าดนตรีบำบัดมีผลกระทบเชิงบวกต่อจิตใจ ช่วยกระตุ้นสมองและลดความเครียดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดนตรีที่ใช้ในการบำบัดไม่ได้จำกัดเฉพาะเพลงแนวใดแนวหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นเพลงคลาสสิก แร็ป ลูกทุ่ง หรือแม้แต่เพลงฮิพฮอพ ล้วนสามารถช่วยให้ผู้ฟังรู้สึกผ่อนคลายได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคลในการเลือกเพลงที่ทำให้รู้สึกเชื่อมโยงและผ่อนคลายมากที่สุด

อ่านบทความที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม :

จุดเด่นของการใช้ดนตรีบำบัดรักษาเป็นอย่างไร

เสียงเพลงไม่ได้มีหน้าที่แค่เพื่อความบันเทิงเท่านั้น แต่ยังถือเป็นเครื่องมือที่มีคุณค่าในการบำบัดรักษาอีกด้วย ดนตรีทำหน้าที่เสมือนแพทย์ผู้ช่วยที่ทำงานควบคู่ไปกับยาต่าง ๆ เพื่อใช้ในการรักษาผู้ป่วย โดยเฉพาะโรคทางจิตใจ เช่น โรคเครียดและโรคซึมเศร้า

จากงานวิจัยของ Buckwalter et.al ในปี 1985 ระบุว่าการใช้ดนตรีบำบัดสามารถช่วยลดความวิตกกังวล ความกลัว และเพิ่มแรงจูงใจให้ผู้ป่วย อีกทั้งยังช่วยเพิ่มการเคลื่อนไหวร่างกาย และช่วยเบี่ยงเบนความสนใจเพื่อลดการเจ็บปวดในกระบวนการรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปัจจุบันยังมีการใช้ดนตรีบำบัดควบคู่ไปกับการรักษาด้วยยาในผู้ป่วยโรคมะเร็ง ซึ่งช่วยลดความกังวลใจได้เป็นอย่างดี

นอกจากนี้ ดนตรีบำบัดยังมีผลดีต่อโรคที่เกี่ยวกับสมอง เช่น โรคอัลไซเมอร์ มีงานวิจัยที่พบว่า เมื่อผู้ป่วยอัลไซเมอร์ได้ฟังเพลงที่คุ้นเคย สมองในหลายส่วนจะกลับมาทำงานอย่างตื่นตัวอีกครั้ง ดังนั้น การจัดเพลย์ลิสต์เพลงโปรดไว้ตั้งแต่วันนี้ อาจมีประโยชน์เมื่อเกิดอาการหลงลืมในอนาคตได้เช่นกัน

สนใจเรียนดนตรีกับมีภูมิ สามารถทดลองเรียนได้ฟรี

  • ยกเว้นคอร์สเต้นจะมีค่าใช้จ่าย 500 บาท เมื่อมีการสมัครเรียนจะคืนเงินให้กับท่าน

แนวทางง่ายๆกับกิจกรรม ดนตรีผ่อนคลายความเคลียด

ปัจจุบันมีการนำดนตรีบำบัดมาใช้รักษาโรคทางจิตเวชอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะในผู้ป่วยที่มีพฤติกรรมถดถอยหรือแยกตัวที่มีลักษณะเรื้อรัง การบำบัดด้วยดนตรีสามารถช่วยส่งเสริมการฟื้นฟูได้ตามขั้นตอนดังต่อไปนี้:

  • เปิดเพลงที่มีจังหวะกระตุ้นและสนุกสนาน เพื่อสร้างความตื่นเต้นและกระตือรือร้น
  • กระตุ้นให้ผู้ป่วยขยับเขยื้อนร่างกายตามจังหวะเพลง
  • ใช้ดนตรีแบบเคาะจังหวะเพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วม
  • ให้ผู้ป่วยใช้เครื่องดนตรีง่าย ๆ เช่น เครื่องเขย่าหรือฟังเพลงเพื่อสร้างการตอบสนอง
  • กระตุ้นให้ผู้ป่วยแสดงความคิดเห็นหรือบอกความรู้สึกที่ได้จากการฟังเพลง

การบำบัดด้วยดนตรีนี้ควรทำครั้งละ 1-1.30 ชั่วโมง สัปดาห์ละ 2 ครั้ง หากทำอย่างต่อเนื่อง ผู้ป่วยจะมีพัฒนาการในการเข้าสังคมได้อย่างรวดเร็ว หลังจากเข้าสู่ชั่วโมงที่ 2 ของการบำบัด ผู้ป่วยที่เคยรู้สึกเหงาหรือเศร้าใจจะเริ่มยิ้มและตอบสนองในทางที่ดีขึ้น

 

7 คุณประโยชน์จากดนตรีบำบัดรักษา

  1. เพิ่มคุณภาพชีวิต: ดนตรีช่วยส่งเสริมสุขภาพจิตและทำให้ผู้ฟังรู้สึกผ่อนคลาย ซึ่งส่งผลให้คุณภาพชีวิตดีขึ้น
  2. การจัดการความตึงเครียด: การฟังดนตรีที่เหมาะสมสามารถลดความเครียดและช่วยให้จิตใจสงบได้
  3. การกระตุ้นความจำ: ดนตรีสามารถกระตุ้นสมองและช่วยเพิ่มความจำ โดยเฉพาะในผู้สูงอายุหรือผู้ที่มีโรคเกี่ยวกับสมอง เช่น อัลไซเมอร์
  4. เพิ่มความชำนาญการติดต่อสื่อสาร: ดนตรีช่วยให้ผู้ฟังหรือผู้เล่นสื่อสารและแสดงออกทางอารมณ์ได้ดีขึ้น
  5. ทุเลาลักษณะของการเจ็บปวด: ดนตรีสามารถเบี่ยงเบนความสนใจจากอาการเจ็บปวด ทำให้ผู้ป่วยรู้สึกสบายมากขึ้น
  6. การฟื้นฟูสมรรถภาพทางร่างกาย: จังหวะและการเคลื่อนไหวตามดนตรีสามารถช่วยในการฟื้นฟูสมรรถภาพทางกาย เช่น การขยับร่างกายหรือการฝึกสมดุล
  7. สนับสนุนความสามารถการเข้าสังคม: การร่วมกิจกรรมดนตรีช่วยพัฒนาทักษะทางสังคมและส่งเสริมความสัมพันธ์กับผู้อื่น

 

ดนตรีบำบัด

ดนตรีถึงแม้ไม่เจ็บป่วย…ก็ฟังได้

ผู้ที่ใช้ดนตรีบำบัดรักษาไม่จำเป็นต้องเป็นผู้ป่วยเท่านั้น เพราะดนตรีบำบัดไม่เพียงช่วยลดความเครียด แต่ยังส่งเสริมและพัฒนาทักษะต่างๆ เช่น การทำกายภาพบำบัดควบคู่กับดนตรีบำบัด ซึ่งจะช่วยให้การฟื้นฟูร่างกายมีประสิทธิภาพมากขึ้น

แม้ผู้ที่มีอาการเครียดเล็กน้อยแต่ยังไม่ถึงขั้นมีภาวะซึมเศร้าก็สามารถใช้ดนตรีบำบัดเพื่อการผ่อนคลายได้เช่นกัน อย่างไรก็ตาม ดนตรีบำบัดมีความแตกต่างจากการฟังดนตรีทั่วไป เพราะการบำบัดต้องให้ผู้เข้ารับการบำบัดเข้าถึงและมีส่วนร่วมกับเพลง รวมทั้งต้องมีเป้าหมายและการเชื่อมโยงกับกระบวนการบำบัดอย่างชัดเจนเพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

สรุป

การเลือกใช้ดนตรีบำบัดเพื่อลดความเครียดนั้น ไม่ได้ขึ้นอยู่กับประเภทของดนตรีที่ใช้เพียงอย่างเดียว แต่สำคัญกว่าคือวิธีการใช้ดนตรีในการบำบัด เราต้องคำนึงถึงความต้องการและเป้าหมายของผู้ที่เข้ารับการบำบัดด้วย เช่น ต้นเหตุของความเครียด และความชอบส่วนตัวของเขาในเรื่องของเพลง

การฟังเพลงคลาสสิกหรือเพลงที่ฟังแล้วสบายใจอาจไม่ใช่สิ่งที่เหมาะสมกับทุกคน เพราะบางครั้งผู้ฟังอาจต้องการเพลงในแนวที่แตกต่างออกไปเพื่อช่วยลดความเครียด ดังนั้น การเลือกดนตรีที่เหมาะสมและค่อยๆ ปรับให้ตรงกับสภาพอารมณ์และความรู้สึกของผู้ฟังจะช่วยให้การบำบัดมีประสิทธิภาพมากขึ้น


เครดิตข้อมูลบทความจาก
paolohospital.com
cigna.co.th