ทำความรู้จักการใช้ “ดนตรีบำบัดรักษา”
อ่านบทความที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม :
- ประวัติที่มาของดนตรีบำบัด และสมาคมดนตรีบำบัดที่ใหญ่ที่สุดในอเมริกา
- การเต้นช่วยฟื้นฟูโรคสมองเสื่อมในผู้สูงอายุและผู้ที่ได้รับบาดเจ็บที่สมอง
จุดเด่นของการใช้ดนตรีบำบัดรักษาเป็นอย่างไร
เสียงเพลงไม่ได้มีหน้าที่แค่เพื่อความบันเทิงเท่านั้น แต่ยังถือเป็นเครื่องมือที่มีคุณค่าในการบำบัดรักษาอีกด้วย ดนตรีทำหน้าที่เสมือนแพทย์ผู้ช่วยที่ทำงานควบคู่ไปกับยาต่าง ๆ เพื่อใช้ในการรักษาผู้ป่วย โดยเฉพาะโรคทางจิตใจ เช่น โรคเครียดและโรคซึมเศร้า
จากงานวิจัยของ Buckwalter et.al ในปี 1985 ระบุว่าการใช้ดนตรีบำบัดสามารถช่วยลดความวิตกกังวล ความกลัว และเพิ่มแรงจูงใจให้ผู้ป่วย อีกทั้งยังช่วยเพิ่มการเคลื่อนไหวร่างกาย และช่วยเบี่ยงเบนความสนใจเพื่อลดการเจ็บปวดในกระบวนการรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปัจจุบันยังมีการใช้ดนตรีบำบัดควบคู่ไปกับการรักษาด้วยยาในผู้ป่วยโรคมะเร็ง ซึ่งช่วยลดความกังวลใจได้เป็นอย่างดี
นอกจากนี้ ดนตรีบำบัดยังมีผลดีต่อโรคที่เกี่ยวกับสมอง เช่น โรคอัลไซเมอร์ มีงานวิจัยที่พบว่า เมื่อผู้ป่วยอัลไซเมอร์ได้ฟังเพลงที่คุ้นเคย สมองในหลายส่วนจะกลับมาทำงานอย่างตื่นตัวอีกครั้ง ดังนั้น การจัดเพลย์ลิสต์เพลงโปรดไว้ตั้งแต่วันนี้ อาจมีประโยชน์เมื่อเกิดอาการหลงลืมในอนาคตได้เช่นกัน
สนใจเรียนดนตรีกับมีภูมิ สามารถทดลองเรียนได้ฟรี
- ยกเว้นคอร์สเต้นจะมีค่าใช้จ่าย 500 บาท เมื่อมีการสมัครเรียนจะคืนเงินให้กับท่าน
แนวทางง่ายๆกับกิจกรรม ดนตรีผ่อนคลายความเคลียด
7 คุณประโยชน์จากดนตรีบำบัดรักษา
- เพิ่มคุณภาพชีวิต: ดนตรีช่วยส่งเสริมสุขภาพจิตและทำให้ผู้ฟังรู้สึกผ่อนคลาย ซึ่งส่งผลให้คุณภาพชีวิตดีขึ้น
- การจัดการความตึงเครียด: การฟังดนตรีที่เหมาะสมสามารถลดความเครียดและช่วยให้จิตใจสงบได้
- การกระตุ้นความจำ: ดนตรีสามารถกระตุ้นสมองและช่วยเพิ่มความจำ โดยเฉพาะในผู้สูงอายุหรือผู้ที่มีโรคเกี่ยวกับสมอง เช่น อัลไซเมอร์
- เพิ่มความชำนาญการติดต่อสื่อสาร: ดนตรีช่วยให้ผู้ฟังหรือผู้เล่นสื่อสารและแสดงออกทางอารมณ์ได้ดีขึ้น
- ทุเลาลักษณะของการเจ็บปวด: ดนตรีสามารถเบี่ยงเบนความสนใจจากอาการเจ็บปวด ทำให้ผู้ป่วยรู้สึกสบายมากขึ้น
- การฟื้นฟูสมรรถภาพทางร่างกาย: จังหวะและการเคลื่อนไหวตามดนตรีสามารถช่วยในการฟื้นฟูสมรรถภาพทางกาย เช่น การขยับร่างกายหรือการฝึกสมดุล
- สนับสนุนความสามารถการเข้าสังคม: การร่วมกิจกรรมดนตรีช่วยพัฒนาทักษะทางสังคมและส่งเสริมความสัมพันธ์กับผู้อื่น
ดนตรีถึงแม้ไม่เจ็บป่วย…ก็ฟังได้
ผู้ที่ใช้ดนตรีบำบัดรักษาไม่จำเป็นต้องเป็นผู้ป่วยเท่านั้น เพราะดนตรีบำบัดไม่เพียงช่วยลดความเครียด แต่ยังส่งเสริมและพัฒนาทักษะต่างๆ เช่น การทำกายภาพบำบัดควบคู่กับดนตรีบำบัด ซึ่งจะช่วยให้การฟื้นฟูร่างกายมีประสิทธิภาพมากขึ้น
แม้ผู้ที่มีอาการเครียดเล็กน้อยแต่ยังไม่ถึงขั้นมีภาวะซึมเศร้าก็สามารถใช้ดนตรีบำบัดเพื่อการผ่อนคลายได้เช่นกัน อย่างไรก็ตาม ดนตรีบำบัดมีความแตกต่างจากการฟังดนตรีทั่วไป เพราะการบำบัดต้องให้ผู้เข้ารับการบำบัดเข้าถึงและมีส่วนร่วมกับเพลง รวมทั้งต้องมีเป้าหมายและการเชื่อมโยงกับกระบวนการบำบัดอย่างชัดเจนเพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
สรุป
การเลือกใช้ดนตรีบำบัดเพื่อลดความเครียดนั้น ไม่ได้ขึ้นอยู่กับประเภทของดนตรีที่ใช้เพียงอย่างเดียว แต่สำคัญกว่าคือวิธีการใช้ดนตรีในการบำบัด เราต้องคำนึงถึงความต้องการและเป้าหมายของผู้ที่เข้ารับการบำบัดด้วย เช่น ต้นเหตุของความเครียด และความชอบส่วนตัวของเขาในเรื่องของเพลง
การฟังเพลงคลาสสิกหรือเพลงที่ฟังแล้วสบายใจอาจไม่ใช่สิ่งที่เหมาะสมกับทุกคน เพราะบางครั้งผู้ฟังอาจต้องการเพลงในแนวที่แตกต่างออกไปเพื่อช่วยลดความเครียด ดังนั้น การเลือกดนตรีที่เหมาะสมและค่อยๆ ปรับให้ตรงกับสภาพอารมณ์และความรู้สึกของผู้ฟังจะช่วยให้การบำบัดมีประสิทธิภาพมากขึ้น
เครดิตข้อมูลบทความจาก
paolohospital.com
cigna.co.th